See Angkor Wat and Die
"Arnold Toynbee" ได้กล่าวไว้
วันที่ 3 ในเมืองเสียมเรียบ เราจะไปดูนครวัดแบบสบายๆ โดยให้คุณพ่อกับน้องสาวทานข้าวเช้าของโรงแรม จนถึงแปดโมง คุณ Chou คนขับรถตุ๊กตุ๊กก็มารอตามที่นัดไว้ โดยเราจะเดินทางเข้านครวัด หลังจากตรวตตั๋วเข้าชม (ซื้อเที่ยวสามวัน เข้าเมื่อไรก็ได้) ก็ได้เวลาทัวร์ด้านในนครวัด
นครวัด มี 3 ชั้น แนะนำเดินจากชั้นในก่อน คือยอดปราสาท มีทั้งขึ้นอยู่ด้านหลัง จำกัดคนขึ้นครั้งละ 100 คนเท่านั้นแต่...
วันที่ไปเยือนเป็นวันพระ เค้าจะไม่เปิดให้ขึ้นครับ จึงแค่เดินรอบยอดปราสาท
ด้านหน้าของยอดปราสาท เป็นทางเดินขึ้นลงของกษัตริย์ ดูทั้งสูงและชันเหลือเกิน
ชั้นที่สอง ตัวปราสาทมีสระน้ำเล็กๆ อยู่สี่สระ
ภายในมีภาพสลักนางอัปสรหลากหลายท่ารำ มี costume ทรงผมไม่ซ้ำกัน และมีบางส่วนเค้าว่ายังทำไม่เสร็จ (วัดนี้ยังสร้างไม่เสร็จ !!!!)
นางอัปสรหลายภาพโดนนักท่องเที่ยวลูบคลำจนมันวาว เพราะมีบางความเชื่อว่า ใครอยากมีลูกหรือมีลูกยาก หากไปลูบอก สมหวังทันที
องค์นี้ทำผมเหมือนเซลล่ามูนเลย
มีพระพุทธรูปในนครวัดด้วย
ด้านในมีบริเวณลานกว้างๆ ให้เดิน เมื่อก่อนอาจจะเป็นที่อยู่ บ้านพักต่างๆ
ชั้นนอกรอบกำแพงทั้งสี่ทิศ มีภาพสลักนูนต่ำบันทึกเรื่องราวต่างๆ (แนะนำให้ดู National Museum ก่อนเข้านครวัด จะได้เที่ยวอย่างมีอรรถรสมากขึ้น) ได้แก่ สงครามมหาภารตะ
วีรกรรมของพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2
พระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 |
โดยเฉพาะรบกับอาณาจักรจาม
นักรบจากสยามกุกมาช่วยรบ |
ตีกันหัวหลุดเลยทีเดียว |
ตำนาน Ocean of Milk หรือ กวนเกษียรสมุทร (ดูเหมือนชักกะเย่อเลย) มีสองฝั่ง ฝั่งอาชูร่า ฝั่งเทวดา ช่วยกันกวนเพื่อเอาน้ำอมฤต เย่อไปเย่อมา นางอัปราพุ่งออกมาเต็มทุ่งข้าวสาลี เป็นโกโก้ครั้น (อ่านตำนวนที่นี่ http://www.unzeen.com/article/1976/)
ฝั่งอาชูร่าจับหัว |
ฝั่งเทวดา จับหาง |
ตรงกลางเหมือนพระนารายณ์ |
จุดแบ่งเป็นสองชั้น บนสวรรค์ ลงนรก |
ยมบาลมั้ง อ่านคำตัดสิน |
มุมมองจากประตูทิศตะวันออก ซึ่งสามารถเดินทางไปดูปราสาทตาพรหม สระสรางได้
เดินไปๆมาๆผ่านไปสามชั่วโมงแล้ว ต้องขอลานครวัด หลบแดด ไปข้าวเที่ยงที่ร้าน Blue Pumpkin ใน Old market ชื่อ blue pumpkin เป็นร้านเบเกอรี่ที่ดังในเสียมเรียบ ชั้นสองมีคาเฟ่ให้นั่งชิวๆ นอกจากกาแฟ ขนมปังและไอศครีม ทางร้านก็มีอาหารจานเดียวด้วย สั่งคนละอย่างเลย รวม 17.5 USD
![]() |
ปลาผัดไรซักอย่าง |
![]() |
ปอเปี๊ยะสด กับ Hoisin Sauce |
![]() |
เฝอเนื้อ |
หลัวจากอิ่มกับมื้อเที่ยง ก็ชวนกลับไปพักที่โรงแรม หลบร้อน นอนดู Seagame รอช่วงเย็นๆ จะไป War Museum และทานข้าวเย็นที่ Old market
War Musuem ตั้งอยู่ค่ายทหารของเมืองเสียมเรียบ เป็นที่เก็บ ซากยุทธโทปกรณ์สมัยสงครามเวียดนาม จนถึงยุคเขมรแดง ที่พบในจังหวัดเสียมเรียบ และพื้นที่ใกล้เคียง โดยเก็บค่าเข้าชมคนละ 5 USD มีไกด์ซึ่งหลายคนเคยเป็น เขมรแดง
ภายในเหมือนสวนมะม่วงเดิมและวาง ซากรถถัง ปืนใหญ่ ส่วนใหญ่ค่ายโซเวียต มีอากาศยานสองลำ อยู่ติดทางเข้าเลย ลำแรกเครื่อง MIG เลย
ฮอ ลำเลียงและโจมตีของค่ายโซเวียด ลำใหญ่เหมือนกันนะ
ท้ายเครื่องเปิดได้สำหรับ ให้ทหารลง ปัจจุบัน รัสเซียก็ใช้ ฮอ. ลำเลียงแนวนี้อยู่
รอบๆ มีการจัดวางอาวุธประจำกายทางของ เมกา และโซเวียตครบ รวมถึงเครื่องใช้ เสื้อผ้าของเขมรแดง ขวาของรูปเป็นของนายทหาร และด้านซ้ายเป็นของพลเรือน รวมถึงการกระทำโดยคำสั่งจากผู้นำเขมรแดงผู้บ้าอำนาจ
มีส่วนแสดงการวางกับระเบิดในสมัยก่อน โดยจะวางรอบๆ บ่อน้ำป้องกันคนขโมยน้ำ มีทั้งแบบเหยียบและกบกระโดด
สนามจำลองการวางกับระเบิด |
ต่อไปเป็นรถถัง รถลำเลียงพลต่างๆ ยุคโซเวียต เหมือนยก Red Alert มาไว้ที่นี่ เพียงแต่อันนี้ของจริง รอยกระสุนจริง ระเบิดจริง และทหารเจ็บตายจริงๆ อันนี้ T54 เหล็กอย่างหนายังโดนระเบิดฉีกเหมือนกระดาษ
รถลำเลียงพลสะเทินน้ำสะเทินบก ทรงคล้าย BRT60 (รถเกราะยูเครน) บ้านเราเลย
รถยิงจรวดหลายลำกล้องก็มี
ที่นี่ปิดห้าโมงครับ จากนั้นเราเที่ยว Old market ทานข้าวเย็นและเดินเล่นที่นั่นเล็กน้อย รอบๆ ขายของทั่วๆ ไป ทั้งเสื้อผ้า ของแห้ง (คล้ายๆ ตลาดกิมหยงที่หาดใหญ่)
![]() |
ป้ายหน้าตลาด |

ตึกรอบๆ Old market |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น