วันที่สอง-พระอาทิตย์ขึ้นนครวัด-ปราสาทตาพรหม
ยามเช้านครวัด
ตื่นตีสี่ เพื่อให้เราสามคนมีเวลาเตรียมตัว เพื่อไปชมพระอาทิตย์ขึ้นที่นครวัด โดยนัดกับคุณ Chou ไว้ 4:45 เพราะต้องเผื่อเวลาซื้อตั๋วเข้าด้วย สำหรับอาหารเช้านั้น เราสามารถขอให้ทางโรงแรมเตรียมในกล่องไว้ล่วงหน้าได้ (คิดว่าหลายๆ ที่ทำได้เหมือนกัน)
คุณ Chou มาถึงหน้าโรงแรมตามเวลาที่นัดไว้พอดี ใช้เวลาเดินทางจากโรงแรมประมาณ 10 นาที ก็ถึงจุดซื้อตั๋วซึ่งห่างจากตัวนครวัดประมาณ 2 กิโลเมตร ราคาเข้าชมนครวัด-นครธมมีหลาย package เช่นกัน โดยมีให้เลือกดังนี้
- เที่ยว 1 วัน คนละ 20 USD
- เที่ยว 3 วัน คนละ 40 USD
- เที่ยว 7 วัน คนละ 60 USD
สำหรับตั๋วเที่ยวหลายๆ วัน เราสามารถใช้วันไหนก็ได้ เราก็เลยซื้อตั๋วเที่ยว 3 วัน เพราะไม่ได้รีบ
ช่องขายตั๋วเที่ยว 3 วันจะแยกต่างหาก ต่างจากช่องซื้อตั๋วเที่ยววันเดียว ซึ่งคนเยอะมากกก
การซื้อตั๋วเราจะฝากซื้อกันไม่ได้ เพราะเค้าจะถ่ายรูปและ Print ลงบนตั๋วด้วย ถ้าใครจะซื้อตั๋วเที่ยวเดียวตอนเช้าๆ ก็เผื่อเวลาหน่อยนะครับ
 |
นี่คือตั๋วสำหรับเข้าชมเมือง Angkor |
 |
ถนน Charles De Gualle เชื่อมเมืองเสียมเรียบ - นครวัด |
ที่นี่พระอาทิตย์ขึ้นประมาณ 5:30 ตามเวลาประเทศไทย จุดที่นักท่องเที่ยวนิยมดูพระอาทิตย์ขึ้นที่สองจุด คือ หน้าทางเข้านครวัด และข้างสระบัวในนครวัด วันนี้ผมตัดสินใจพาทุกคนไปข้างในนครวัดเลย จะได้เห็นยอดของนครวัดด้วย
 |
แสงแรก ณ นครวัด |
มาช่วงหน้าแล้ง น้ำในสระแห้งไปหน่อย
 |
มาเรื่อยๆ แต่เมฆเยอะ |
 |
ฝั่งขวาของปราสาทบ้าง |
|
ประมาณ 6 โมงแดดเริ่มแรง จึงพาเรียกพ่อและน้องกลับก่อน เพราะตั้งใจมาดูที่นี่วันสุดท้าย
ปราสาทตาพรหม AKA ปราสาทTomb Rider
จากนั้นคุณ Chou พาไปปราสาทตาพรหม หรือปราสาท Tomb Rider
หนังที่เจ๊แองจิน่าโจลี่แสดงนำ และใช้ปราสาทนี้เป็นฉากสุดท้าย
(จากนั้นเจ๊ติดใจกัมพูชาเลย)
 |
คุณ Chou พาไปปราสาทตาพรหมก่อน |
ข้อดีของการมาปราสาทตาพรหมตอนเช้าๆ ก็คือ คนยังน้อย จึงทำให้เราได้เก็บภาพปราสาทนี้เต็มๆ โดยไม่ต้องหลบคนอื่นๆ เลย (ตอนนั้นนับนักท่องเที่ยว ไม่ถึง 10 คน)
 |
ทางเข้าฝั่งตะวันออก |
คุณ Chou พาเราเข้าทางประตูฝั่งตะวันออก ต้องเดินเข้าไปพอสมควร ก็เห็นปราสาทและต้นไม้อันโด่งดัง อายุหลายร้อยปี ซึ่งฝังรากลึกไปในตัวปราสาท บางส่วนทำให้พังลงมา และบางส่วนก็ค่อยอุ้มให้อยู่ได้ถึงทุกวันนี้
 |
ปราสาท Tomb Rider |
|
|
 |
โพลงนี้ใหญ่ขนาดให้คนเข้าไปอยู่ได้ |
เมื่อเข้าข้างใน ก็เจอมุมยอดนิยมจุดแรกเลย ที่รากของต้นสำโรง ซึ่งเป็นไม้เนื้ออ่อน คลุมหลังคาของปราสาท
https://youtu.be/dXC8FZGEp-0?t=3m5s (link ที่แนบมาเป็นส่วนหนึ่งของหนัง Tomb Rider ที่ เจ๊กำลังสำรวจปราสาท เพื่อหาทางเข้าอะไรซักอย่าง เริ่มตั้งแต่ ยอดบางเค็ง ประตูเมืองบายน และปราสาทแห่งนี้)
 |
มุมยอดนิยม 1 |
 |
มุมยอดนิยม 2 |
มุมยอดนิยม 3 ที่มีรากของต้นสำโรงคลุมหลังคาเป็นแนวยาว
https://youtu.be/dXC8FZGEp-0?t=4m6s
 |
มุมยอดนิยม 3 |
หลายๆจุดที่เป็นมุมยอดนิยมเค้าสร้างรั้วกั้นไว้หมด (สงสัยคนชอบปีนขึ้นไป)
อาจจะดูไม่สวยสำหรับคนชอบถ่ายรูป
แต่เพื่อจัดระเบียบและให้สภาพของปราสาทคงอยู่นานๆ ก็ OK น่ะ นอกจากนี้ยัง item ลับที่คนไปเยือนควรหาให้พบ อย่าง รอยยิ้มนางอัปสรที่ซ่อนในรากไม้
 |
ไม่สังเกต จะไม่เห็นเลย |
ต้องซูมมมมม
 |
รอยยิ้มนางอัปสร |
สิ่งที่พลาดคือ รูปสลักคล้ายไดโนเสาร์แห่งตาพรหม (แรกเข้าใจว่า อยู่เมืองบายน) ก่อนกลับเราได้เห็นการบูรณะของปราสาทนี้ซึ่งความร่วมมือระหว่างรัฐบาลกัมพูชากับอินเดีย นี้แค่ส่วนปีก ต้องหาก้อนหินและจัดวางให้ตรงตำแหน่งก็เหนื่อยแล้ว
 |
โปสเตอร์แสดงภาพก่อนหลังบูรณะ |
 |
ภายในทางเดิน |
หลังจากใช้เวลาที่นี่ประมาณ 2 ชั่วโมง เราทั้งสามคนก็เดินกลับไปที่รถของคุณ Chou แล้วเตรียมไปเมืองพันหน้าบายน นี่เป็นชุดภาพส่งท้ายครับ แล้วจะเข้าใจว่าทำไม เราใช้เวลาถึง 2 ชั่วโมงกับปราสาทแห่งนี้
 |
ภาพสุดท้าย ก่อนจากกันครับ |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น